มาทำความรู้จักกับที่เที่ยว ใน นครคุนหมิง
พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยภูเขาสูง อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีน่าเที่ยวอยู่ใกล้เมืองไทย เพื่อทำความรู้จักเมืองคุนหมิงให้มากขึ้น
1.ภูเขาหิมะมังกรหยก
ภูเขาหิมะมังกรหยก เพราะมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 5,596 เมตร มียอดเขา 13 ยอดเรียงต่อกันถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตลอดปี มองดูคล้ายมังกร การขึ้นชมวิวบนยอดภูเขาหิมะมังกรหยก เราต้องนั่งเคเบิลคาร์ขึ้น แบ่งเป็น 3 ระดับความสูง ได้แก่
- Spruce Meadows ระดับความสูงที่ 3,200 เมตร
- Yak Meadows ระดับความสูงที่ 3,650 เมตร
- Glacier Park ระดับความสูงที่ 4,506 เมตร
ต้องขอบอกเลยว่าหากไปเยือนภูเขาหิมะมังกรหยกทั้งที แนะนำให้ขึ้น Glacier Park จัดสูง ๆ ไปเลย วิวสวยงามคุ้มค่า
2.เมืองโบราณต้าหลี่
เป็นเมืองโบราณที่สะท้อนชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองต้าหลี่ในอดีต มีการแสดงงิ้วโบราณและระบำพัดจีน ที่สำคัญยังมีถนนคนเดินต้าหลี่ด้วย นับว่าไม่ควรพลาดต้องมาเยือนสักรอบ
3.เมืองโบราณลี่เจียง
เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนาว และเป็นฐานที่ตั้งของชนเผ่าหน่าซีที่อพยพมาจากทิเบต ด้วยการอนุรักษ์สถาปัตยกรรม บ้านเรือนรูปทรงโบราณ และวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ เมื่อได้มาเดินเล่นในเมืองโบราณนี้ ก็คล้ายว่าได้ย้อนยุคกลับไปอยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ของจีนเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลย
4.วัดลามะซงจ้านหลิง
วัดแห่งนี้ได้สร้างขึ้นตามลักษณะเดียวกับวัดโปตาลาของธิเบต วัดซงซานหลินเป็นวัดใหญ่ที่สำคัญของเมืองจงเตี้ยน วัดแห่งนี้ห่างจากเมืองจงเตี้ยนไปทางเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร มีการสร้างในลักษณะจำลองแบบจากพระราชวังโปตาลา (Potala) ในกรุงลาซา (Lhasa) และนอกจากนี้ยังเป็นวัดนิกายลามะแบบธิเบตที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลยูนนานซึ่งมี อายุที่เก่าแก่กว่า 300ปี และในช่วงเทศกาล ชาวทิเบตส่วนใหญ่ ก็จะนิยมการเต้นระบำหน้ากากและเป่าแตรงอนซึ่งเป็นการละเล่นที่อยู่ในช่วง เทศกาล สำคัญต่างๆของวัด รวมถึงประเพณีต่างๆ ที่ชาวทิเบตได้อนุรักษ์ไว้ ณ วัดซงซานหลินแห่งนี้
5. วัดหยวนทง
เป็นวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของมณฑลยูนนาน สร้างในสมัยราชวงศ์ถัง มีอายุเก่าแก่กว่า 1,200 ปี ลักษณะของวัดแห่งนี้ไม่ได้สร้างตามแบบของวัดจีนที่จะต้องสร้างบนภูเขา แต่ที่นี่สร้างอยู่ต่ำกว่าภูเขา เนื่องจากแต่เดิมเคยเป็นศาลเจ้าแม่กวนอิมมาก่อน ต่อมาวัดก็ได้ถูกทำลายในสมัยราชวงศ์หมิง และได้รับการบูรณะในสมัยราชวงศ์ชิง